สถาบัน CIES เปิดเผยรายงานฉบับประจำ 2 ปีเรื่องมูลค่าของนักเตะที่รวบรวมจากลีกดังทั่วยุโรปโดยเฉพาะใน 5 ลีกชั้นนำ ซึ่งหากเป็นช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา มันอาจส่งผลกระทบต่อการซื้อขายในตลาดนักเตะที่กำลังเคลื่อนไหวไม่มากก็น้อย แต่ตอนนี้ตลาดนักเตะกำลังจะเลื่อนออกไป เพราะการแข่งขันที่ค้างคายังไม่จบลง
เมสซี่ ยิงไปแล้ว 19 ประตู นำเป็นดาวซัลโว ลา ลีกา แต่ไม่ติด 10 อันดับแรกไม่ใช่เพราะจงใจ แต่ผลการประเมินบอกไว้อย่างนั้น แน่นอนว่า ไม่มี คริสเตียโน โรนัลโด้ ด้วยเช่นกัน
ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ท็อป 10 ล้วนเป็นผู้เล่นหน้าตาคุ้นเคย และอาจเป็นคนที่คาดเอาไว้ว่าน่าจะมี จากผลงานที่ยังดีอยู่ก่อนโดนการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัสเล่นงานจนต้องหยุดการแข่งขันกะทันหัน แต่แม้การแข่งขันยังมีอยู่ค่าตัวของพวกเขาก็จะไม่เปลี่ยนแปลงไปมาก เพราะนี่คือความดีที่พวกเขากระทำมาตลอด 2 ฤดูกาล
พาส่อง 10 นักเตะ ค่าตัวแพงที่สุดในโลก ซึ่งจะมีใครบ้าง
- คีเลี่ยน เอ็มบัปเป้
ปารีส แซงต์ แชร์กแมง
231.1 ล้านปอนด์ (9,244 ล้านบาท)
ถ้า “เปแอสเช” อยากจะขายแข้งรายนี้ พวกเขาควรได้กำไร แต่ปัญหาก็คือใครจะมาซื้อ แต่เรื่องอื่นนอกจากนี้ เขาคือนักเตะที่มีมูลค่าแพงกว่าราคาที่จ่ายไป มีประสิทธิภาพ สูงในตำแหน่งที่ยืนอยู่ เราอาจไม่ต้องพูดอะไรเกี่ยวกับเขามาก เพราะคนทั้งโลกได้ประจักษ์แก่สายตาไปนับครั้งไม่ถ้วน 20 เกม 18 ประตู 5 แอสซิสต์ การเลี้ยงบอลติดเท้าพ่วงรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแทบทุกสถาบัน
- ราฮีม สเตอร์ลิ่ง
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
173.6 ล้านปอนด์ (6,944 ล้านบาท)
11 ประตู 1 แอสซิสต์ ยิงตรงกรอบ 23 ครั้ง สร้างโอกาส 36 ครั้งคือสิ่งที่เกิดขึ้นสำหรับ สเตอร์ลิ่ง หากได้เห็นผลงานเปรียบเทียบระหว่าง สเตอร์ลิ่ง และ ซานโช มันอาจมีข้อสงสัยอยู่บ้างว่าทำไม แข้งรุ่นพี่ถึงอยู่ในอันดับที่ 2 แต่นั่นเป็นเพียงผลงานในฤดูกาลล่าสุดที่รุ่นน้องพุ่งขึ้นมา แต่พี่อยู่มาก่อน มีความคงเส้นคงวามากกว่า และเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จที่ชัดเจน
- จาดอน ซานโช
โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
159.7 ล้านปอนด์ (6,388 ล้านบาท)
ฤดูกาลนี้ ซานโช พัฒนาขึ้นอีก 17 ประตู 16 แอสซิสต์ ยิงตรงกรอบ 28 ครั้ง สร้างโอกาส 64 ครั้ง ขณะนี้เขาครองตำแหน่งดาวซัลโวอันดับ 3 ของศึก บุนเดสลีกา เยอรมนี แต่ที่น่าสนใจคือจำนวนแอสซิสต์ที่ทำให้เขามีส่วนร่วมกับประตูใกล้เคียง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ และ ติโม แวร์เนอร์ ที่นำอยู่ ด้วยความสามารถที่มีล้นเหลือบวกความห้าวหาญในการไปเล่นต่างแดนตั้งแต่เป็นดาวรุ่ง มีอะไรมากมายในตัวแข้งรายนี้ซ่อนอยู่อีกมาก
- เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์
ลิเวอร์พูล
152.6 ล้านปอนด์ (6,104 ล้านบาท)
เทรนท์ กลายเป็นหนึ่งในแบ็คขวาแถวหน้าของโลก และน่าจะเป็นแบ็คขวาที่ดีที่สุดในอังกฤษนับตั้งแต่ ลิเวอร์พูล เข้าชิงกับ เรอัล มาดริด ในปี 2018 การประสบผลสำเร็จในปี 2019 คือการตอกย้ำว่าเขาคือคนสำคัญ และหากทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ทุกอย่างก็จะสมบูรณ์ เพราะตอนนี้ เทรนท์ ก็เป็นตัวเลือกลำดับแรกของทีมชาติอังกฤษอยู่แล้ว
- มาร์คัส แรชฟอร์ด
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
135.8 ล้านปอนด์ (5,432 ล้านบาท)
ด้วยผลงานโดยรวมของทีมทำให้เกิดข้อสงสัยว่า แรชฟอร์ด ยังมีค่าตัวในระดับนี้ได้อีกหรือ คำตอบก็คือเป็นได้ เขาโด่งดังตั้งแต่อายุยังน้อย ด้วยวัย 22 ปีนี่คือฤดูกาลที่ฟอร์มของเขาพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ยิงไปแล้ว 14 ประตู ที่ดูเหมือนไม่มากมาย แต่ก็นับได้เกือบ 1 ใน 3 ของประตูใน พรีเมียร์ลีก ของทีมเลยทีเดียว หากมีบรรยากาศรอบตัวที่ดี เราอาจเห็นเขาไปได้อีก
- โมฮัมเหม็ด ซาลาห์
ลิเวอร์พูล
129.2 ล้านปอนด์ (5,168 ล้านบาท)
เจ้าของรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมปี 2018 ดาวซัลโวอันดับ 3 ร่วมในศึก พรีเมียร์ลีก ยิงไปแล้ว 16 ประตู แต่ยังมีคนมองว่าความโดดเด่นและความสำคัญบางประการในปีนี้อาจโดนแย่งชิงไป แต่เขาก็ยังคงเส้นคงวา อาจจะติดเรื่องฟอร์มในเกมใหญ่ไปบ้าง ่ตลอด 3 ปีที่ผ่านมานี่คือหนึ่งในแกนหลักของ ลิเวอร์พูล อย่างปฏิเสธไม่ได้
- ซาดิโอ มาเน่
ลิเวอร์พูล
124.1 ล้านปอนด์ (4,964 ล้านบาท)
ฤดูกาลที่แล้ว มาเน่ ยิง 22 ประตู ส่วนฤดูกาลนี้ยิงไปแล้ว 14 ประตู แม้แนวโน้มอาจเป็นไได้ว่าเขาจะมีผลงานที่ใกล้เคียงกับเมื่อซีซั่นก่อน แต่สิ่งที่ได้รับคำชมอย่างมากคือความขยัน ความพยายาม และภาพรวมที่อาจดูดีกว่า ซาลาห์ ในสายตาของผู้คนจำนวนไม่น้อย และหลังจากผลัดกันเป็นคนสำคัญ มันก็เป็นไปได้ว่า ถ้า ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ลีก รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมก็คงไม่ไปไกลจากมือ
- อองตวน กรีซมันน์
บาร์เซโลน่า
121.6 ล้านปอนด์ (4,864 ล้านบาท)
8 ประตูในลีก เทียบไม่ได้กับ 19 ประตูของ ลิโอเนล เมสซี่ และยังยิงได้น้อยกว่า หลุยส์ ซัวเรซ ที่ซัดไปแล้ว 11 ประตู ทำให้เขามักจะโดนโห่ และโดนมองว่าไม่คุ้มค่า แน่นอนว่าเขายังไม่ใช่ขวัญใจคนใหม่ในถิ่น คัมป์ นู และอาจต้องใช้เวลาอีกสักพัก หรือไม่ก็ต้องรอให้ เมสซี่ หมดสัญญาซีซั่นหน้าเขาอาจได้เป็นตัวเอกคนใหม่ แม้ตอนนั้นเขาจะอายุ 30 ปีแล้วก็ไม่เป็นไร เพราะมีนักเตะไม่น้อยสามารถท็อปฟอร์มอยู่ได้ แบบที่เรียกว่ายิ่งแก่ยิ่งเก๋า
- อัลฟองโซ่ เดวีส
บาเยิร์น มิวนิค
119 ล้านปอนด์ (4,760 ล้านบาท)
แข้งแคนาเดี้ยนเชื้อสายแอฟริกันวัย 20 ปี เกิดในแคมป์ผู้ลี้ภัย ยากจน แต่ตอนนี้เขากลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่ต้องจับตามอง เร็ว แข็งแกร่ง ผ่านบอลได้ดี มีความสามารถในริมเส้นซ้าย สามารถเล่นได้ทั้งปีกและแบ็คซ้าย ถนัดซ้ายแบบธรรมชาติ ทำให้ ดาวิด อลาบาเสียวหลังแว้บๆ เพราะอาจโดนชิงตำแหน่งตัวจริง
- แฮร์รี่ เคน
ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์
105.8 ล้านปอนด์ (4,232 ล้านบาท)
การถล่มประตูเป็นจุดเด่นสุดขีดของ เคน ไว้ใจได้ทั้งในสโฒสรและทีมชาติ มีรางวัลดาวซัลโวพ่วงท้าย ขาดไปก็แค่ตำแหน่งแชมป์ที่หลายปียังว่างเปล่า หากตลาดยังอยู่ในสภาวะปกติ เขาก็อาจจะย้าย แต่เนื่องจาก ท็อตแน่ม เพิ่งว่าจ้างกุนซือฝีปากเอกแบบ โชเซ่ มูรินโญ่ ทำให้พอเชื่อได้ว่า เคน จะอยู่ต่อ และเป็นเรื่องยากที่จะขายให้กับทีมในอังกฤษด้วยกัน แต่จะมีกี่ทีมในต่างแดนที่กล้าซื้อ
เมสซี่ อยู่ที่ไหน? เป็นเวลากว่าทศวรรษ ที่เรามักจะเห็นชื่อของแข้งอาร์เจนไตน์ติดท็อปชาร์ตอยู่เสมอ แต่ก็เป็นที่เข้าใจได้ว่าในวัย 33 ปี แม้ยังยิงมากที่สุดใน บาร์เซโลน่า และนำเป็นดาวซัลโว ลา ลีกา แต่ด้วยสัญญาที่เหลือเพียงปีเดียวก็คงพอบอกได้ว่าเกิดอะไรบางอย่างขึ้นกับเขา หรืออาจจะกำลังตัดสินใจอะไรบางอย่าง เพราะที่จริงแล้ว ทีมดังแคว้นคาตาลันก็ไม่ได้อยากปล่อยเขาไปไหน ราคาของ เมสซี่ จึงตกลงมาที่ 89 ล้านปอนด์ (3,560 ล้านบาท)
พอราคาของ เมสซี่ เป็นแบบนั้น มันจึงเกิดคำถามว่า 91 ล้านปอนด์ (3,640 ล้านบาท) ของ เมสัน เมาท์ สูงเกินไปหรือไม่ ในเมื่อแข้งวัย 21 ปีของ เชลซี เพิ่งก้าวขึ้นมาในลีกสูงสุดปีแรก และได้เล่นอย่างสม่ำเสมอเป็นฤดูกาลที่ 2 หลังจากซีซั่นก่อนไปยืมตัวกับ ดาร์บี้ ขณะที่กองหลังเบอร์ 1 ของโลกอย่าง เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ อยู่ในอับดับ 24 ที่ 88 ล้านปอนด์ (3,520 ล้านบาท) แต่ที่น่าตกใจที่สุดคงเป็น คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซึ่งหลุดจากท็อป 50 ไปที่อันดับ 70
มูลค่าของนักเตะเป็นส่วนหนึ่งที่อาจช่วยชี้วัดความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นในตลาด หรือเร่งกระบวนการบางอย่างในตลาด แต่การซื้อขายที่จะเลื่อนออกไปตามตารางแข่งขันยืดเยื้อและสภาพการเงินที่ทุกทีมต้องประคองตัว ทำให้เป็นไปได้ว่าแฟนๆ จะไม่เห็นการทุบสถิติโลกไปอีกพักใหญ่ การยืมตัว การปล่อยนักเตะหมดสัญญา ไม่ใช่ว่าสโมสรไม่มีเงิน แต่มีให้ใช้อย่างจำกัด อาจเกิดเทรนด์ใหม่ที่น่าสนใจได้เหมือนกัน
ทั้งนี้สามารถที่ตะติดตามข่าวสารเกี่ยวกับ ข่าวฟุตบอล เพิ่มเติมได้ที่เว็บนี้ที่เดียว